วันที่ 2 :: 4,088 โค้ง เที่ยวปลายฝน ต้นหนาว เชียงใหม่ ปาย ปางอุ๋ง ทุ่งบัวตอง อินทนนท์ 4 วัน 3 คืน

เพราะการเดินทาง มีความสำคัญ ทุกเรื่องราว มีความประทับใจ ไม่ว่าจุดหมายอยู่หนใด คนร่วมทางสำคัญเสมอ ระหว่างทางก็เช่นกัน จุดหมายคือสิ่งที่เราตั้งขึ้นมา ระหว่างเดินทาง อย่ามัวแต่นอนหลับ จงลืมตา แล้วจดจำทุกความรู้สึกในช่วงเวลานั้น  ๆ ไว้เสมอ เพราะทุกภาพที่ผ่านตา คือ ความทรงจำอันล้ำค่า ที่เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ใช่ว่าจะเหมือนเดิม ต่อให้เราอยู่ที่เดิมทุกวัน ในแต่ละวัน มันก็ไม่เหมือนเดิม

อั้มได้มีโอกาสไปเชียงใหม่อีกรอบหนึ่งแล้วค่ะ จองตั๋วผ่านโปรของ แอร์เอเชีย (Airasia) ไว้นานมาก ๆ  ปกติอั้มจะไปเชียงใหม่ทุกปี เพราะรักในจังหวัดเชียงใหม่ รักทุก ๆ อย่างของที่นี่ ทั้งรสชาติอาหาร ขนม กาแฟ และธรรมชาติ

อั้มไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 16.00 น. โดยมีกำหนดการดังนี้

• วันที่ 1 สนามบินเชียงใหม่ >> We Terminal Hotel >> โอ้กระจู๋ >> ถนนคนเดินวัวลาย 
• วันที่ 2 รับรถสนามบินเชียงใหม่ >> เดินทางสู่ห้วยน้ำดัง >> ปาย >> ปางอุ๋ง 
• วันที่ 3 ตื่นเช้ามาตักบาตร ชมหมอกยามเช้า ปางอุ๋ง >> บ้านรักไทย >> ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ >> บ้านแม่กลางหลวงฮิล
• วันที่ 4 ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ >> กิ่วแม่ปาน >> จุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ >> พระธาตุจอมทอง >> แกรนแคนยอน >>  วัดพระธาตุดอยคำ >> อ่างแก้ว >> กทม. 

เริ่มต้นก็มารับรถกันก่อนเลยที่ สนามบินเชียงใหม่ อั้มจองของ Avis นะคะ ใช้บริการกันมานานมาก ๆ แล้ว รอบนี้จัดรถ Vios ใหม่เอี่ยมให้เลยค่ะ จอง ตัดผ่านบัตรเครดิตอย่างเดียวนะคะ มีการหักค่ามัดจำ 8,000 บาท ก่อนหน้านี้เคยหัก 20,000 แหนะ จะบอกว่า ถ้ามาช่วงวันหยุด จองผ่านคอลเซ็นเตอร์ ถูกสุดน่ะ จากการใช้บริการมาหลายครั้ง เพราะถ้าใช้วอยเชอร์ วันหยุด แพงกว่าอีก งงมาก เลยไม่ได้ใช้ Voucher จากงานเที่ยวไทย ทิ้งไปแบบ อยากร้องไห้ จนตอนนี้รู้แล้วว่าเจ็บปวดขนาดไหน เลยจองผ่าน Call Center ตลอด จุดรับรถช่องทาง 3 ใกล้ ๆ กับเคาเตอร์ AVIS เลยค่ะ ออกมาเจอเลย

ขับรถออกมาจากสนามบิน มุ่งหน้าไปทางแม่ริม หรือม่อนแจ่ม ทางนู้นแหละ แล้วแวะ ม่อนระมิงค์ ก่อน หาไรรองท้องกันสักหน่อย จุดหมายนี้เราเคยมาแล้ว อาหารพอใช้ได้ กาแฟก็ดี มี 7-eleven แวะซื้อของใช้จำเป็นก่อนขึ้นเขา เพราะขึ้นเขาแล้วอะไร อะไรจะยากขึ้นไปอีก คลิ๊กชมรีวิว ม่อนระมิงค์

ออกเดินทางกันต่อมาอีกสักแป๊ปหนึ่ง ก็จะเจอทางเข้าแยกไป ปาย มีป้ายบอกทางชัดเจน แต่ตอนนี้ทำไมป้ายนี้โดยคนทำร้ายกันขนาดนี้ เมื่อหลายปีก่อนขึ้นไปปาย ไม่มีอะไรติดแบบนี้น่ะ อยากจะแกะออก แต่ก็ทำได้ยาก เพราะเยอะเหลือเกิน กลัวจะขึ้นเขาไม่ทันเวลา การขับรถขึ้นเขา ใช้เวลานานกว่าขับรถบนถนนปกติน่ะ 98 กิโล ปกติอาจจะขับรถบนถนนเรียบ ๆ แค่ 2 ชั่วโมงแต่ถ้าขึ้นเขา มาแม่ฮ่องสอน ปาย ประมาณ 2224 โค้ง  ก็ต้องมี 4 ชั่วโมงอ่ะ

ผ่านมาครึ่งทาง อีป้าเบลเลซซ่า ไม่ไหวแล้วจ้า คือปกติจะไม่ค่อยเมารถน่ะ เคยมาปายตอนก่อนก็ไม่เมา รอบนี้ได้รถใหม่ไง กลิ่นใหม่ยังติดอยู่ เมาแบบไม่ไหวแล้ว แวะหน่อยค่ะ ขออ๊วกก่อนเด้อ นี่ครึ่งทางเองหรอเนี่ย แล้วคิดดู กว่าจะถึงปาย ปายไปปางอุ๋งอีก กี่ชั่วโมง กี่พันโค้ง ป้าจะตายไหมเนี่ย แวะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย พักสักแป๊ป เตรียมออกเดินทางต่อ

ยังไม่ถึงปาย เจอป้าย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตอนกำลังเมารถขั้นพีคสุด ก็เลยต้องแวะอีกสักหน่อย ค่าเข้าคนละ 50 ค่ารถอีก 30 รวมเป็น 130 บาท เข้ามานึกว่าถึงเลยไง เจอโค้งเล็ก โค้งน้อยอีกหลายโล ถามว่าไหวไหมจุดนี้ อ๊วกเรียบร้อยค่ะ ไม่ได้กินยามาด้วย เพราะปกติไม่ได้เป็นขนาดนี้ไง ขาอ่อนหมดแรงเลยเชียว

เจอป้ายแล้วก็ขอถ่ายรูปหน่อย ป้าต้องการ อ๊อกซิเจน สูดเข้าไปแรง ๆ

เกิดอะไรขึ้น สามีหิวข้าวอีกแล้ว ป้าเลยต้องพาแวะกินที่ ครัวสายหมอก ในอุทยานแห่งชาติกันสักหน่อย

ในจุดที่เมารถ เวียนหัว แบบขั้นสูงสุด ป้าเลยสั่งผัดกระเพราะ ที่เผ็ดที่สุดมา 1 จาน เผ็ดได้สะใจป้ามาก ช่วยบรรเทาความเมาไปได้เยอะเลย พร้อมออกเดินทางต่อแล้ววววววววว

ขับรถมาอีกสักพัก ก็ถึงสะพานประวัติศาสตร์ปาย แล้ว ถนนเขาทำดีกว่าเมื่อก่อนมาก ขับขี่ง่าย ไม่ยากน่ะ แต่จะเจอโค้งมากไปหน่อย ทำให้เมารถ  ป้าใช้วิธีเปิดกระจกรถทุกบานเลยค่ะ แล้วช่วยบรรเทาไปได้เยอะมาก เพราะกลิ่นธรรมชาติ ช่วยดันกลิ่นใหม่ของรถออกไป

มาถึงที่นี่ก็ยืนถ่ายรูปกันสักหน่อย สัก 20-30 รูปก็พอ ก่อนออกเดินทางต่อ จุดหมายเราอีกไกล อยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวค่ำ จริง ๆ ควรแวะนอนปายสักคืน จะดีกว่านี้น่ะ ใครจัดทริปแนะนำเลย อย่ารีบร้อนแบบพี่ พี่ว่ามันไม่ไหวจริง ๆ

ไกลสุดลูกหูลูกตา เมื่อไหร่จะถึงกันน่ะ ป้าอยากนอนแล้ว ป้าท้อแท้ ป้ารู้สึกมันปริ่ม ๆ มาที่ลำคออีกแล้วเนี่ย เห้ย ตรงห้วยน้ำดังอากาศเย็นสบาย ทำไมมาถึงปาย ร้อน ๆ แปลก ๆ

ขับมาเรื่อย ๆ เจอบ้านคน ป้าไม่ไหวแล้ว ขอให้สามีจอดอีกแล้ว 5555 จอดกันตลอดทาง สงสารคนแก่ เมารถหน่อยเนอะ ตรงนี้เหมือนมีบ้านหลายหลัง เป็นชุมชนเล็ก ๆ มีห้องน้ำให้บริการด้วย คนล่ะ 5 บาท

เจอน้องหมู กับ น้องหมา น่ารักเชียว ดูท่าจะรักกันมาก ๆ เลย มีเล่นกัน หอมกันตลอด

แล้วพอเดินไปหาน้องหมา น้องหมาก็เหมือนจะรับรู้ว่า เราชอบนาง นางก็มาใกล้ ๆ จับอุ้มถ่ายรูปซะเลย

แล้วเราก็ล้อหมุน ออกเดินทางกันต่อ ระหว่างทาง เจอจุดชมวิวกิ่วลมอีก ก็แวะอีก ปวดห้องน้ำอีกแล้ว แล้วก็เหมือนได้พักการเมารถ พักรถอีกหน่อย เพราะน้องออส เดินทางมาไกล กลัวจะเหนื่อย ถ้างอแงขึ้นมา เราจะยุ่ง บนเขาไม่ได้หาที่ซ่อมรถกันง่าย ๆ เนอะ พักบ้างไรบ้าง ดีสุดล่ะ เพราะรถเช่าด้วย ไม่ใช่เรารถ เราไม่รู้ว่าคนอื่นขับมาดีขนาดไหน ดูแลกันดีหรือป่าว ถ้าแจ๊คพอร์ตแตกแย่เลยน่ะ

เจอน้องชาวเขาเดินมาหา พี่ค่ะ พี่ ถ่ายรูปกับหนูไหมค่ะ ให้ค่าขนมกี่บาทก็ได้ค่ะ เลยถ่ายก็ได้ นาน ๆ มาที แล้วบอกน้องยิ้มหวานๆ หน่อย 555 ให้ไป 20 สมทบทุนการศึกษาเล่าเรียน

ตรงนี้มีกังหันลมด้วยค่ะ เห็นอยู่ 5 อัน ที่นี่ก็เสียค่าเข้าห้องน้ำคนละ 5 บาทนะคะ

นั่งชิงช้าเล่นสักหน่อย แต่ใครห้ามหมุนน่ะ นี่กลัว

เจอจุดชมวิวอีกแล้ว แวะอีก ค่าห้องน้ำอีก 5 บาท เข้ากันทุกจุดเลยเกิดอะไรขึ้นกับฉัน

ออกเดินทางมาไม่นาน ก็ถึงสักที ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ดีใจมากที่ถึงก่อนจะมืด เพราะทางขึ้นมาไม่ธรรมดา ทางค่อนข้างแคบ และชัน ถ้ามืดน่าจะขับยากเหมือนกันค่ะ มาถึงก็วิ่งเข้าปางอุ๋งก่อนเลย เพื่อจะได้วางแผนถูกในพรุ่งนี้เช้าว่าเราจะอะไรยังไงดี

ฟ้ามืดแล้วก็ออกจากปางอุ๋ง มากินหมูกะทะกัน ชุดนี้ 300 บาทจ้า มีร้านขายหลายร้านอยู่ ที่เห็นๆ  น่ะ 3 ร้าน ก็เลือกกินกันได้ตามสบาย หมูติดมันอร่อยมาก อากาศบนนั้น ไม่ต้องรอเย็นเลย เอาออกจากเตาก็เข้าปากได้แล้ว ยังกะอยู่เกาหลีงี้

ระหว่างกิน มีเจ้าถิ่น มายืนรถ สงสัยจะหิว แต่ถ้าหยิบกล้องมาถ่ายรูป เขาจะหันหน้าหนีน่ะ เหมือนไม่ชอบให้ถ่ายรูป ก็เลยกินบ้าง ให้น้องบ้าง

สรุปคือไม่อิ่ม เลยมาหาของหวานปิดท้าย เจออันนี้ เห็นตอนนี้ยังคิดไม่ออกใช่ไหมว่าคืออะไร ดูภาพต่อไป

ทอดเหมือนเฟรนฟราย แต่เขาคือ ถั่วเหลืองทอด อร่อยใช้ได้

มาต่อกันที่ โรตี มีรถวิ่งขึ้นมาขาย มาจากหมู่บ้านก่อนถึงปางอุ๋ง

อิ่มแล้วก็เตรียมตัวเข้านอน อั้มพักที่บ้านลุงปาละ นะคะ เป็นโฮมสเตย์ อั้มจองมาในราคาคืนล่ะ 700 บาท สิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ค่อยมีไรมากน่ะ แนวโฮมสเตย์อ่ะแหละ มีน้ำดื่มให้ 2 ขวด อั้มแนะนำสิ่งที่ต้องพกมา

• Skincare บำรุงผิวต่าง ๆ ห้ามลืมกันแดด และครีมที่ให้ความชุ่มชื่น ช่วงนี้หนาวค่ะ
• ครีมกันยุง กันแมลง เผื่อมาในหน้าที่มียุงเยอะ จริงๆ  เขามีมุ้งให้แหละแต่เราไม่ชอบกลาง
• ผ้าขนหนู ที่นี่ไม่มีให้
• ผ้าห่ม ผ้าปูรองนอน เราไม่รู้ว่าใครนอนยังไง เขาทำความสะอาดไหม แต่ที่เห็นจากสีแล้ว เอามาเผื่อด้วยก็ดี
• แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
• ทิชชู่ สำหรับเช็ดทำความสะอาดต่าง ๆ
• ทิชชู่เปียก เวลาแวะเข้าห้องน้ำตามสถานที่ต่าง ๆ

สำหรับอั้ม เพราะนี่คือบ้านพักแบบ ที่พักบนเขาของคนในหมู่บ้าน ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้วค่ะ มาเจอแบบนี้ก็เลยเฉย ๆ แต่บางคนที่ไม่รู้ คาดหวังเยอะ ก็อย่าขึ้นมานอนบนนี้เลยค่ะ เพราะที่นี่ยังอิงอยู่กับธรรมชาติ อั้มชอบที่นี่มาก ๆ ปกติไปเที่ยวนอนเต้นท์ไรงี้ อั้มก็ชอบน่ะ เคยไปนอนมาบ่อย ๆ แต่รอบนี้มาเครื่อง พกเต้นท์มาคงหนักเอาเรื่องอยู่ ถ้าขับรถมาเองคงพกมาด้วย แต่การมีห้องแบบนี้ ก็ได้เรื่องความเป็นส่วนตัว ความอบอุ่น เพราะไม่โดนลมมาก และมีห้องน้ำให้ มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เสียงดังได้ยินกันหมดคล้ายๆ นอนเต้นท์แหละ ห้องข้างๆ กรนก็ได้ยิน

ห้องน้ำเป็นแบบชักโครกน่ะ แต่ใช้ขันตักราด มีสายชำระให้ใช้ น้ำอุ่นเป็นระบบแก๊สต้ม ให้ความอุ่นของน้ำได้ดี

อ่างล้างหน้า ก็สามารถใช้งานได้จริง ข้างล่างไม่มีท่อออกไปด้านนอก ยืนระวังด้วยนะคะ สำหรับคนใส่ถุงเท้า

คืนนี้ขอนอนกันก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นตี 5 เพื่อไปชมหมอก และซึมซับบรรยากาศยามเช้า ที่อ่างเก็บน้ำ ปางอุ๋งกันต่อ ซึ่งใครไปเกิน 8 โมงตลาดวายนะคะ ต้องรีบตื่น จะได้เห็นบรรยากาศสวยงามรอบตัวค่ะ

Next ....

ปางอุ๋ง , บ้านชาสารักไทย , ดอยแม่อูคอ