ฟิลเลอร์ฉีดกี่วันจึงจะเข้าที่ แล้วดูยังไงว่าไม่ใช่ของปลอม

ก่อนเลือกทำฟิลเลอร์ จำเป็นต้องรู้ว่ากี่วันใบหน้าของสาว ๆ จึงจะเข้าที่ปกติ อีกเรื่องคือควรรู้ด้วยว่าของปลอมเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ใช้งานอย่างปลอดภัย ไร้กังวล

ตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์กี่วันหน้าถึงจะเข้าที่ มีวิธีสังเกตของปลอมอย่างไร?

หลาย ๆ คนคงจะทราบถึงผลข้างเคียงหลังจากตัดสินใจไปฉีดฟิลเลอร์มา ไม่ว่าจะ รอยเข็มเล็ก ๆ น้อย ๆ อาการบวม จนบางครั้งก็แอบมีความกังวลว่าจะเข้าที่เป็นปกติภายในกี่วัน รวมถึงเรื่องของปลอมที่ปัจจุบันมีขายกันเกลื่อนไปหมดจะรู้ได้อย่างไรว่าสถานพยาบาลใช้แบบไหน เอาเป็นเรื่องเหล่านี้จะไม่เป็นสิ่งกังวลใจไปอีก เพราะเราได้สืบเสาะจนได้ข้อมูลมาให้ศึกษาผ่านบทความนี้เรียบร้อยแล้ว

 “ฟิลเลอร์” ฉีดไปแล้วกี่วันจึงจะเข้าที่ดี

เรียกได้ว่าเป็นคำถามพาให้กังวลใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับ “ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่” ซึ่งต้องบอกว่าหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 2 สัปดาห์จนถึง 1 เดือนเท่านั้นเอง ซึ่งการทำหัตถการรูปแบบนี้มีข้อดีมาก ตรงที่

• ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย หรือจุดบกพร่องต่าง ๆ อย่าง ปัญหาแก้มตอบ ใต้ตาคล้ำเป็นร่อง
• ช่วยยกกระชับทำให้รูปหน้าเข้าที่ เข้าทรงสวยงามมากขึ้น
• ใช้เวลาดำเนินการไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้นยาวเหมือนทำศัลยกรรมผ่าตัดต่าง ๆ
• ทำเสร็จแล้วสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
• สามารถสลายหายไปเองได้ตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
• ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เต่งตึง หน้าดูอ่อนกว่าวัย ผิวแลดูมีสุขภาพดี

วิธีสังเกตฟิลเลอร์ที่ใช้ของปลอมหรือเปล่า

สังเกตสติกเกอร์ที่แปะข้างกล่อง

โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์จะมีสติกเกอร์แปะอยู่ข้างกล่อง ให้ลองสังเกตดูว่าเป็นภาษาไทยหรือไม่ อ่านเข้าใจง่ายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องมี QR Code ที่เมื่อสแกนไปแล้วสามารถตรวจสอบความถูกต้องของการนำเข้าได้

ราคาและการบริการของแพทย์

แค่เราหาข้อมูลก็สามารถรู้ได้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นของแท้หรือของปลอม สังเกตจากราคาและบริการของแพทย์ ยิ่งสถานพยาบาลไหนบอกว่าราคาถูกมาก หลักร้อยไปถึงหลักพันบาทเท่านั้น ให้คิดไว้ก่อนเลยว่านั่นเป็นของปลอมแน่นอน เพราะของแท้ราคาจะมีตั้งแต่หลักพันบาทปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว

ของถูกนำเข้าจากต่างประเทศ

อาจมีการโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามานี้มีราคาถูกแล้วก็หิ้วเข้ามาจากต่างประเทศคิดไว้เลยว่าของเป็นของปลอมอย่างยิ่งยวด เพราะของแท้จะต้องเป็นบริษัทที่ได้รับการอนุญาตแล้วเท่านั้น ไม่มีการไปหิ้วมาจากบุคคลอื่นเด็ดขาด

เช็คสถานพยาบาลก่อนเข้ารับ filler

แน่นอนว่าก่อนที่จะตัดสินใจทำควรมีการตรวจสอบเสมอถึงความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตชัดเจน ชื่อเสียงเรียงนามชัดเจน สถานที่ตั้งสามารถติดต่อได้มั่นคง ควรมีใบอนุญาตแพทย์ตั้งโชว์ไว้หเห็นชัดเจนด้วย

ดูความแตกต่างให้ถี่ถ้วน

บางผลิตภัณฑ์เราอาจจะเคยเห็นของแท้มาบ้าง ให้ลองดูความแตกต่าง ทั้งตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ หรืออย่าง ของแท้ยี่ห้อ Neuramis deep ปกติแล้วจะไม่มียาชามาให้ แต่หากเป็นของปลอมจะมียาชามาให้ด้วย เห็นข้างกล่องที่ไหนระบุมียาชาการันตีไว้เลยว่าของปลอม

ฟิลเลอร์เลือกฉีดบริเวณไหน ใช้เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้หรือใครที่เป็นมือใหม่เพิ่งเคยฉีดเป็นครั้งแรกคงจะสงสัยเช่นกันว่าหากเราต้องการเลือกฉีดไปที่บริเวณไหนของใบหน้าจะต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ซึ่งศึกษาได้ไม่ยาก อย่าง ถ้าเราฉีดที่ขมับและใต้ตาจะใช้อยู่ที่ 1 – 2 หลอด, ถ้าฉีดฟิลเลอร์คางและร่องแก้มจะใช้อยู่ที่ 1 – 3 หลอด, ฉีดที่หน้าผากจะใช้อยู่ที่ 2 – 5 หลอด, ฉีดที่แก้มจะใช้อยู่ที่ 1 – 4 หลอด และฉีดที่ปากจะใช้อยู่ที่ 0.5 – 1 หลอด โดยการฉีดในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ เข้ากับใบหน้าที่แต่ละคนมีต่างกัน

รูปภาพจาก Galderma Thailand

สรุป

อีกเรื่องที่อยากบอกต่อสำหรับใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ที่ใบหน้า ก็คือวิธีเตรียมตัวเองก่อนทำอยากให้งดกินวิตามิน รวมถึงงดกินยาที่อาจทำให้เลือดออกมาก เช่น ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ หรือยารักษาโรคบางอย่าง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเป็นดีที่สุด