โดนหลอกไปทำ เซอร์ไพรส์ ให้ ผมนุ่ม สวย มีน้ำหนัก กับ EVOD

สวัสดีค่ะ วันนี้มีงานผม มาอัพเดทให้ฟังกันในรูปแบบ Blog Review นะคะ อั้มได้รับเชิญให้ไปลองผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศรีษะ แบรนด์ใหม่ล่าสุด Evod ที่ Lavish Salon อั้มไปทำมาแล้วรู้สึกประทับใจ จึงนำมาบอกเล่าข้อมูลในรูปแบบ Blog Review ให้ทุกท่านที่ติดตามอั้มได้อ่านกันนะคะ

Lavish Salon นอกจากบริการด้านผมแล้ว ยังมี SPA และ MASSAGE ด้วยนะคะ

ในร้านค่อนข้างสวยงาม ดูอบอุ่น และดูแพงมาก ด้วยการใช้ลายหินอ่อนเป็นหลัก ตัดกับสีดำ ขาว และ โรสโกล ซึ่งเป็นโทนสีที่อั้มชอบมาก ๆ

ก่อนเริ่มทำ อั้มก็ถ่ายรูปก่อนทำไว้ก่อน ขอบอกก่อนว่าช่วงนี้ อั้มทำทรีทเม้นท์ผมบ่อย และเลิกฟอกสีผมมาหลายเดือนแล้ว แต่ผมช่วงปลายๆ ยังเป็นผมที่เคยผ่านเคมี ผ่านการฟอกสี และทำสี มาอย่างหนัก จึงมีอาการช็อตและมักจะแห้งเสียกว่าส่วนอื่น ๆ

เริ่มต้นก็ทำการสระผม เพื่อชำระล้างความมัน และ สิ่งสกปรกออกจากผมและหนักศรีษะ หลังจากนั้นก็จะทำการลงครีมนวดผม ก็ปกติเนอะ เวลาไปร้าน สระ ไดร์ เขาก็จะสระก่อน แล้วก็ลงครีมนวดผม แต่ที่นี่จะเพิ่มทรีทเมนต์ลงไปในขั้นตอนสุดท้าย

ต่อมาก็ลงทรีทเม้นท์ มาส์ก เพื่อบำรุงผม อย่างล้ำลึกมากกว่าเดิม ตอนทำมีปิดตาด้วยน่ะ แบบเราไม่เห็นเลยว่าใช้ผลิตภัณฑ์อะไร อันนี้ตอนแรกก็ งง ๆ เพราะว่า แบรนด์บอกว่าแบรนด์ใหม่ อั้มก็อยากรู้ไงว่า แบรนด์ใหม่เป็นยังไง แอบสงสัย แต่แอบได้กลิ่นคุ้นมากๆ แบบใครได้กลิ่นก็น่าจะรู้สึกแบบอั้ม เพราะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ ตอนสระ เราโดนปิดตาด้วยไง แต่เราก็จินตนาการออกน่ะ แล้วพอถามพนักงาน ว่า ตัวนี้คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร พนักงานก็เลี่ยงการตอบแปลก ๆ อ้ำ ๆ อึ่ง ๆ แล้วตอนแรกบอกว่า จะมีเซอร์ไพรส์ นี่ตื่นเต้น งงไปหมดแล้วเน้อ

ขณะสระผม มีการเกาเบา ๆ ไม่เจ็บหนังศรีษะเลย และมีการนวดศรีษะด้วย ทำให้ผ่อนคลายมากๆ และขณะสระผมมีผ้าปิดตรงหน้าผากไว้ กันน้ำกระเด็นโดนหน้า หรือไหลมาโดนหน้าทำให้รองพื้นเราไม่หลุดด้วย เลิศ

หลังจากสระผม ลงครีมนวด ทรีทเม้นท์ เรียบร้อยแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนการไดร์ผม และเซ็ทผม ขณะเป่าไดร์ผม รู้สึกผมนุ่ม สางง่าย ไม่พันกัน ดูมีน้ำหนัก แอบเอามือจับผม ผมนุ่มลื่น

คุยกับพนักงานไป ๆ มา ๆ แล้วแอบตกใจ หลาย ๆ คนยังคง งงอยู่ว่า ตกใจอะไรเบอร์นั้น จากตอนแรกหน้านิ่ง ๆ แต่ขอบอกเลยว่า ตอนแรกอั้มรู้สึกว่า ของที่ใช้กับอั้มคงแพง มาก ๆ เพราะผมอั้มดูมีวอลลุ่ม ไม่รีบแบน และดูสุขภาพดีขึ้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้น่ะว่า หน้าตาผลิตภัณฑ์ Evod เป็นยังไง

เสร็จแล้วจ้า ผมวันนี้ เป็นลอนสวย ๆ เข้ากับรูปหน้า ดูสวยหวานขึ้นมาก ๆ เส้นผมดูสุขภาพดีมาก ๆ ผมดูนุ่ม และ เป็นระเบียบ และตรงโคนผมไม่ลีบแบน

ทำเสร็จแล้วชอบมาก ๆ ผมเข้ากับหน้าสุด เส้นผมดูมีน้ำหนักด้วย แต่ ตอนนี้ยังไม่เห็นผลิตภัณฑ์ EVOD เลยสักชิ้น งงเด้

สักพักหนึ่งก่อนจะกลับ พนักงานก็เอากล่องปริศนามาให้ ตอนนี้ก็ยังไม่ให้เปิดน่ะ รอเปิดพร้อมกับจอส คือ ในใจยังแอบ งง อยู่ ว่ามีเซอร์ไพรส์อะไรเนี่ย ตื่นเต้นสุด ๆ แบรนด์นี้หาใน Google ก็ไม่มีด้วยน่ะ

แทน แท่น แท้น เปิดกล่องออกมา สรุปว่า EVOD คือ DOVE นั่นเอง เขาแค่เอาตัวอักษรมาเรียงสลับกัน อั้มก็ว่าแล้วว่ากลิ่นเขาเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นนี้จำได้แม่นเลย แล้วในที่สุดก็จริงด้วย ซึ่งตอนแรกอั้มคิดว่า เป็นแบรนด์จากต่างประเทศ เพราะแบรนด์มีการปิดไว้ไม่ให้รู้ว่า ผลิตภัณฑ์คืออะไร เราก็ต้องจินตนาการไปเองว่า แบรนด์นี้เลียนแบบกลิ่นโดฟ แน่ๆ คิดไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ จริง ๆ แล้ว เราต้องเชื่อสัมผัสแรกของเรา เพราะ แม่นเสมอ

ถามว่าอั้มตกใจไหม คือตกใจมาก เพราะอั้มคิดว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วันนี้น่าจะเกิน 500 บาท เพราะทำให้ผมอั้มดูสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แต่ ไม่ถึงจ้า

โดยปกติแล้ว อั้มไม่ค่อยได้ใช้ โดฟในการสระผมบ่อยเท่าไหร่ เพราะอั้มต้องทดลองสลับใช้ไปหลากหลายแบรนด์ ที่เขาส่งมาให้ลอง แต่พอมาลองจริงจังแบบในวันนี้แล้วคิดว่า กลับไปคงต้องลองใช้ระยะยาวสักหน่อย เพราะครั้งแรกผมยังดีขึ้นเลย ถ้าใช้ไปนาน ๆ ผมคงจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ

สรุปความรู้สึกหลังได้ทดลองใช้งานจริงกับผมของตัวเอง :: อั้มรู้สึกประทับใจมาก เพราะผมดูสุขภาพดีขึ้น บริเวณปลายผมที่แห้งเสีย มีความเป็นฝอย ๆ แห้ง ๆ ที่เกิดจากการทำสีผมบ่อย ๆ และการโดนความร้อนเป็นประจำ ก็ดูสภาพดีขึ้น ผมนุ่ม ลื่น ดูมีน้ำหนัก อั้มว่า เซ็ทนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่ผมกำลังมีปัญหา จากการทำสี ทำเคมี ยืด ดัด เพราะช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น และปลายผมไม่หงิกงอแบบที่เคยเป็น และถ้าใช้ต่อเนื่อง จะลดผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ อั้มอยากให้สาว ๆ ทุกคนได้ลองเปิดใจ ไม่ใช่ว่าของถูกจะไม่ดีเสมอไป ถูกและดีก็ยังมีทั่วไป เพียงแต่บางทีเราก็มองข้ามไปเพราะความเคยชิน แล้วไปหาอะไรแปลกใหม่มาใช้ เท่านั้นเอง